Sunday 28 February 2010

ยึดให้หมด! ทั้งวังทั้งหุ้นทั้งเพชร ยึดยึด ยึดให้หมด!!

ยึดให้หมด! ทั้งวังทั้งหุ้นทั้งเพชร ยึดยึด ยึดให้หมด!!
ใจ อึ๊งภากรณ์

ไอ้กรณ์บอกว่ารัฐจะผลิตห่วงข้อมือสีชมพู 999,999 อันและขายอันละ 99บาท ยกเงินให้ภูมิพล เป็นเงินทั้งสิ้น 98,999,901 บาท ถึงเวลาแล้วที่ประชาชนต้องสอนให้ราชวงศ์พอเพียงสักที ยังรวยไม่พออีกหรือ? เราต้องหวังว่าจะมีแค่คนโง่คนคลั่งเจ้าที่จะซื้อ ที่เหลือปฏิเสธเถิด และสำหรับคนที่บอกว่าจะใช้ในโครงการหลวง... กี่ % จะเข้ากระเป๋าคนรวยและคนรับใช้ภูมิพล? และใครจะเป็นผู้ตรวจสอบ? ภูมิพลอ้างเป็นนักพัฒนามาหกสิบกว่าปี แต่ประชาชนยังยากจน มันเลยต้องบอกให้คนจนมีความสุขในความพอเพียง แต่รัฐบาลไทยรักไทยพัฒนาสภาพคนจนในแค่เวลาห้าปี ถามว่าการให้เงินกับคนที่โลภมากและพัฒนาไม่เป็น เป็นนโยบายที่ดีหรือ และเป็นการสร้างกำไรอันไม่ชอบธรรมหรือไม่ ผมว่ายึดให้หมด! ทั้งวังทั้งหุ้นทั้งเพชร ยึดยึด ยึดให้หมด!!

ตอนนี้ภูมิพลออกจากโรงพยาบาล... ใครจ่ายค่าพยาบาล? หรือเขาใช้บัตรทองเพื่อสิทธิเทวดา? ดูเหมือนนอนโรงพยาบาลนานกว่าจำเป็น จำได้ไหมที่พวกเหลืองมันเคยดูถูกคนจนว่าไปหาหมอโดยไม่จำเป็นหลังใช้นโยบายสามสิบบาท? แล้วการให้หมาเข้าโรงพยาบาลมันไม่ผิดหลักสุขภาพหรือ? หรือหมาเป็นเทวดาด้วย?

ผมว่าภูมิพลถูกแนะ(สั่ง)ให้ออกมาและกลับวังวันนั้นเพื่อให้คน "ลืม" ข่าวยึดทรัพย์ทักษิณ แต่อย่างไรก็ตามภูมิพลสมองเสื่อม ตามธรรมชาติคนชรา เราทราบดี นั่งตัวเอียง เดินเองไม่ค่อยได้ และพูดช้าและไม่คล่องยิ่งกว่าเดิม แกยิ่งหลงอำมาตย์ต่างๆยิ่งใช้งานแกได้ดี ก่อนหน้านี้ถูกแนะ(สั่ง)ให้พูดกับผู้พิพากษา/ศาลว่าควรทำตามหน้าที่ เพื่อสร้างภาพว่าภูมิพลสั่งให้ยึดทรัพย์ แต่พวกนี้รู้อยู่แล้วว่าหน้าที่เขาคืออะไร เพราะเขาเป็นส่วนของอำมาตย์ ที่ยึดมาไม่หมดก็สร้างภาพอีกว่า “พิจารณาตามความเป็นธรรมหรือกฎหมาย” นั้นคือละครหมาๆ ของอำมาตย์

ในกรณีคดีทักษิณ มันเป็นคดี “การเมือง” ที่อำมาตย์พยายามทำลายคู่แข่งเท่านั้น มันไม่ใช่คดีในระบบ “ยุติธรรม” เพื่อกำจัดคอร์รับชั่นแต่อย่างใด เพราะตอนนี้เราก็ทราบกันว่ามีสองมาตรฐานทางกฎหมายและศาลเป็นเพียงหมารับใช้อำมาตย์ ถ้าเราจะพิจารณาคดีทักษิณด้วยมาตรฐานระบบยุติธรรม ต้องมีการเปิดโอกาสให้พิสูจน์ว่านโยบายของรัฐบาลช่วงนั้นเอื้อประโยชน์ให้บริษัทมือถือบริษัทเดียว หรือเป็นการสร้างระบบแข่งขันเสรีระหว่างบริษัทต่างๆ ซึ่งต้องมีการถกเถียงในที่สาธารณะเพื่อให้ประชาชนรับฟังทั้งสองฝ่าย

แต่ที่ชัดเจนคือ ประมุข นักการเมือง และรัฐมนตรี รวมถึงนายกรัฐมนตรี ไม่ควรถือหุ้น ไม่ควรมีผลประโยชน์พิเศษทางเศรษฐกิจ ควรรับใช้ประชาชน แต่ดูเหมือนรัฐบาลทุกชุดรวมถึงชุดปัจจุบัน ก็มีรัฐมนตรีที่ถือผลประโยชน์ นอกจากนี้นายทหารระดับสูงมีการใช้ตำแหน่ง ใช้การทำรัฐประหาร ในการได้ตำแหน่งในบริษัทเอกชน รัฐวิสาหกิจและสื่อ เพื่อสะสมความร่ำรวยผิดปกติ และราชวงศ์ไทย โดยเฉพาะนายภูมิพล ได้สร้างความร่ำรวยผิดปกติให้ตนเอง จนเป็นคนที่รวยที่สุดในประเทศไทย โดยอาศัยความศักดิ์สิทธิ์ของการเป็นกษัตริย์ที่เราวิจารณ์ไม่ได้

ข้อแตกต่างระหว่างการคอร์รับชั่นของราชวงศ์และทหารหรือส.ว.แต่งตั้ง กับการคอร์รับชั่นของนักการเมืองที่มาจากการเลือกตั้งคือ เราสามารถเปลี่ยนใจไม่เลือกนักการเมืองที่ทำผิดได้ มันเป็นกระบวนการตรวจสอบที่มีพลัง แต่อำมาตย์ไม่เคยต้องถูกตรวจสอบแบบนี้เลย

ทั้งวังทั้งหุ้นทั้งเพชร ทั้งความร่ำรวยของนายพล และนักการเมืองประชาธิปัตย์ ฯลฯ ยึดยึด ยึดให้หมด!!