Tuesday 8 June 2010

แนวรบ 8 ข้อ ของเสื้อแดงหลังราชประสงค์


ยุทธศาสตร์สำคัญ
แนวรบ 8 ข้อ ของเสื้อแดงหลังราชประสงค์

ข้อเสนอจาก ใจ อึ๊งภากรณ์




การฆ่าประชาชนมือเปล่าอย่างเลือดเย็นโดยอำมาตย์ และการล่าจับแกนนำเสื้อแดง เป็นสิ่งที่ท้าทายเราอย่างถึงที่สุด ห้าครั้งแล้วในรอบสี่สิบปีที่อำมาตย์ฆ่าประชาชนที่เรียกร้องประชาธิปไตย เราไม่สามารถยอมจำนนอีกต่อไปได้ ถ้าไม่สู้ก็เป็นทาส ถ้าไม่สู้เราไม่มีวันสร้างรัฐไทยใหม่ที่ประชาชนเป็นใหญ่ เราไม่สามารถสร้างความเป็นธรรมทางสังคม เราไม่สามารถสร้างความเป็นพลเมืองแทนการเป็นไพร่ และสังคมไทยจะจมอยู่ในยุคมืดและความด้อยพัฒนาต่อไป
เราต้องสู้... แต่เราต้องสู้ด้วยปัญญา ไม่ใช่หลงใหลในนิยายของการจับอาวุธ การจับอาวุธจะเป็นแค่ยุงกัดสำหรับอำมาตย์ สิ่งที่อำมาตย์กลัวคือมวลชน เราควรหลงใหลคิดว่าจะมีพระเอกที่ไหนมาปลดแอกเราหรือทำแทนเราอีกด้วย เราต้องพัฒนาการต่อสู้ของมวลชน และพัฒนาระดับการเมืองของฝ่ายเรา

1. รื้อฟื้นองค์กรและเครือข่ายเสื้อแดง จากระกับรากหญ้า ระดับชุมชน พวกเราเริ่มอยู่แล้ว แต่เราต้องทำอย่างเป็นระบบทั่วประเทศ ทุกโอกาส ไม่ว่าจะเป็นงานศพ การทำบุญ การร่วมกันกินข้าว การดื่มกาแฟ การแข่งกีฬา ฯลฯ ต้องกลายเป็นกิจกรรมทางการเมืองของฝ่ายเรา ต้องเป็นโอกาสที่จะคุยกัน และที่จะเชื่อมโยงเครือข่ายระหว่างจังหวัดต่างๆ อย่าไปคิดว่าแกนนำระดับชาติจะทำให้ เขาทำไม่ได้เพราะแกนนำสำคัญติดคุกอยู่ ในกรณีที่ไม่ติดคุกก็ทำไม่ได้เพราะทำไม่เป็น พวกเราในระดับรากหญ้าทำได้ และเราเริ่มทำกันแล้ว ถ้าไพร่จะกบฏจริง ไพร่ต้องเลิกประเมินตัวเองต่ำเกินไป เราต้องก้าวเข้ามาเป็นแกนนำรุ่นใหม่ที่ผูกพันอย่างใกล้ชิดกับเสื้อแดงรากหญ้า แกนนำใหม่นี้ต้องเน้นการปรึกษาหารือกับมวลชนตลอด ไม่มีพระเอก ไม่มีผู้ใหญ่ มีแต่ไพร่นักสู้มืออาชีพที่จะปลดแอกตนเอง รายละเอียดของการปฏิบัติการต้องประเมินเองตามความเหมาะสมและความสามารถ เงินทุนในการเคลื่อนไหวต้องร่วมกันลงขัน เงินทุกบาทที่เราลงขัน เป็นการแก้แค้นเอาคืนจากสิ่งชั่วร้ายที่อำมาตย์กระทำกับเรา เป็นการทำบุญให้วีรชนที่เสียชีวิต การทำงานของเราจะปิดลับแค่ไหนขึ้นอยู่กับสถานการณ์ แต่อย่าลืมว่าการปิดลับเป็นอุปสรรค์ต่อการสร้างประชาธิปไตยภายในของขบวนการ

2. ถ้าเราจะสู้เราต้องมีระบบข้อมูลข่าวสารที่น่าเชื่อถือ ไม่ต้องพึ่งสื่อรัฐ ASTV หรือข่าวลือ เราทำตรงนี้ได้ผ่านเอกสาร ซีดี วิทยุชุมชน อินเตอร์เน็ท การคุยกันทางโทรศัพท์ และการพบกันเป็นประจำ

3. เราต้องรวบรวมรายชื่อผู้ติดคุก เพื่อรณรงค์ช่วยเหลือนักต่อสู้และผู้นำของเรา ขบวนการไหนไม่สามารถปกป้องคนของตนเองหรือไม่สามารถรณรงค์ให้ปล่อยนักโทษการเมือง จะไม่มีวันชนะ เราต้องทำเอง ไม่มีใครจะมาทำให้เรา ไพร่ต้องพึ่งตนเอง แต่ไพร่คือคนส่วนใหญ่ของสังคม

4. เราต้องเรี่ยรายเงินเพื่อช่วยเหลือคนบาดเจ็บและครอบครัวของผู้เสียชีวิต หลายแห่งเริ่มทำแล้วกิจกรรมแบบนี้ และกิจกรรมการรณรงค์สนับสนุนคนติดคุก จะเป็นการ “ออกกำลังกายฝึกฝน” ที่สำคัญและมีประโยชน์สำหรับการพัฒนาเครือข่ายเสื้อแดงทั่วประเทศ

5. เมื่อเราพร้อม เราควรจะเปลี่ยนจากการสู้เพื่อปกป้องช่วยเหลือพวกเรา ไปเป็นการรุกสู้กับอำมาตย์ คราวนี้ต้องหาทาง “ปิดเมือง” เช่นนัดอยู่บ้านไม่ไปทำงาน ปิดร้านค้า ปิดธุรกิจ และนัดหยุดงานในโรงงานและสถานที่ทำงานต่างๆ อย่างที่เขาทำกันในประเทศอื่นๆ ของเอเชียหรือที่อัฟริกาใต้และลาตินอเมริกา มันแปลว่าเราต้องมีการพูดคุย วางแผน และขยายเครือข่ายเข้าสู่ขบวนการสหภาพแรงงาน และชุมชนต่างๆ พื้นที่เหล่านี้ต้องเป็นของเราให้ได้ เราจะต้องหาทางไม่ร่วมมือกับรัฐอำมาตย์ในเรื่องเล็กๆ น้อยๆ แล้วค่อยๆ ขยายเป็นเรื่องใหญ่อีกด้วย

6. พัฒนาความคิดทางการเมืองแบบ “ตาสว่าง” การที่เราจะ “ตาสว่าง” ไม่ได้แปลว่าเราจะมองว่าใครคนใดคนหนึ่ง เช่นนายภูมิพล นางสิริกิติ์ หรือนายเปรม เป็นผู้บงการทุกอย่าง พวกนั้นมันเลวจริง แต่เราต้องเข้าใจว่าทหาร ข้าราชการ นักการเมือง และนายทุนใหญ่ของอำมาตย์ ร่วมกันใช้ “ลัทธิกษัตริย์” (ชาติ ศาสนา กษัตริย์) ในการสร้างความชอบธรรมกับการกดขี่ขูดรีดที่พวกมันทั้งแก๊งทำกับเรา อำมาตย์มันเป็นคณะ มันใช้ลัทธิกษัตริย์ปิดหูปิดตาเราและในการสร้างความกลัวตั้งแต่เราเข้าโรงเรียน เราจึงต้องสลัดมันทิ้งไป เลิกจงรักภักดี เริ่มหันมาเคารพประชาชนแทน เราต้องเกลียดกองทัพฆาตกรพอๆกับที่เราเกลียดอำมาตย์อื่นๆ เราต้องศึกษาประวัติศาสตร์ตั้งแต่ ๒๔๗๕ ผ่านเหตุการณ์เดือนตุลา ไปสู่ปัจจุบัน และต้องศึกษาประวัติศาสตร์ประเทศอื่นๆ อีกด้วย

7. พัฒนาข้อเรียกร้องทางการเมือง ไม่ใช่แค่เรื่องยุบสภา ไม่ใช่แค่ประชาธิปไตย แต่ต้องให้ประชาชนเป็นใหญ่จริงๆแล้วมีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ มีงานทำ มีฐานะเศรษฐกิจดี มีรัฐสวัสดิการ มีการเก็บภาษีสูงๆจากอภิสิทธิ์ชนของอำมาตย์ มีการปฏิรูประบบศาลอย่างถอนรากถอนโคน มีการล้มกองทัพและสร้างกองกำลังใหม่เพื่อความปกป้องปลอดภัยของประชาชนแทนการฆ่าประชาชน ต้องมีการสร้างแนวร่วมกับพี่น้องชาวมุสลิมมาเลย์ในภาคใต้ที่ถูกอำมาตย์และกองทัพเข่นฆ่ากดขี่มานานเหมือนเรา ต้องยกเลิกกฎหมายหมิ่นกษัตริย์ และต้องมีเวทีปฏิรูปเพื่อให้ประชาชนร่วมกันพิจารณาว่าจะทำยังไงกับสถาบันกษัตริย์และรัฐไทย จะยกเลิกไป หรือปฏิรูป ฯลฯ สิ่งเหล่านี้เราต้องคุยกันให้ชัดเจน

8. จะทำอย่างไรกับพรรคเพื่อไทย? ตลอดเวลาที่เสื้อแดงต่อสู้บนท้องถนน ส.ส.พรรคเพื่อไทยจำนวนมาก ไม่ทำอะไรเลย พอเราถูกปราบเขาก็ไม่ทำอะไร ที่พูดอย่างนี้ผมไม่นับคนที่เป็นแกนนำบนเวทีราชประสงค์อย่างจตุพร ซึ่งทำหน้าที่อย่างดีที่สุด แต่เราคงต้องยอมรับว่าพรรคเพื่อไทยมีปัญหามากมาย เราสามารแก้ปัญหานี้ด้วยสองวิธีคือ
ใช้ขบวนการคนเสื้อแดงกดดันพรรค เพื่อให้พรรคเปลี่ยนแปลง ปฏิวัติพรรคจากภายในให้เริ่มเสนอนโยบายใหม่ๆ และมีส่วนในการนำการต่อสู้ โดยการเปลี่ยน ส.ส. แกนนำ และความคิดในพรรค
หรือ เราอาจตัดสินใจสร้างพรรคเสื้อแดงขึ้นมาเป็นพรรคใหม่แทนพรรคเพื่อไทย เพื่อให้เป็นพรรคตัวแทนของเราจริงๆ เป็นพรรคตัวแทนของคนที่พร้อมจะสู้ พร้อมจะเห็นรัฐไทยใหม่
การเลือกแนวทางใดแนวทางหนึ่ง ต้องอาศัยการพูดคุยแลกเปลี่ยนภายในวงกว้างของคนเสื้อแดงเท่านั้น อย่างไรก็ตาม เราต้องรักษาขบวนการเสื้อแดงที่เข้มแข็งและอิสระ เป็นขบวนการเคลื่อนไหวทางสังคมนอกรัฐสภา เพื่อให้เป็นเจ้านายของพรรคเพื่อไทย ไม่ให้พรรคใช้เสื้อแดงเป็นฐานเสียงโดยไม่ให้อะไรกับเรา

8 มิ.ย. 2553