Sunday 28 March 2010

การเจรจาระหว่าง นปช. กับ อภิสิทธิ์

การเจรจาระหว่าง นปช. กับ อภิสิทธิ์
ใจ อึ๊งภากรณ์

การเจรจาระหว่าง นปช. กับอภิสิทธิ์ มีจุดเด่นตรงที่มันเป็นผลของการประท้วงครั้งยิ่งใหญ่ของเสื้อแดง และที่น่าทึ่งคือพลังเสื้อแดงสามารถบังคับให้อภิสิทธิ์เจรจาถ่ายทอดสดต่อหน้าประชาชน ทำให้เรานึกถึงภาพการเจรจาถ่ายทอดสดระหว่างรัฐบาลเผด็จการคอมมิสนิสต์โปแลนด์กับสหภาพแรงงาน Solidarity ในทศวรรษที่ 80 การเจรจาถ่ายทอดสดมีประโยชน์มาก เพราะเปิดโปงจุดยืนของแต่ละฝ่ายอย่างชัดเจน ไม่สามารถมีการบิดเบือนโดยสื่อ และผู้แทนประชาชนไม่สามารถไปทำข้อตกลงลับหลังมวลชนได้ ดังนั้นเราต้องเรียกร้องให้การเจรจาเป็นแบบนี้ทุกครั้ง
อภิสิทธิ์ถูกเปิดโปงว่าสนับสนุนกระบวนการทุกอย่างที่มาจากรัฐประหาร ๑๙ กันยา และการแทรกแซงการเมืองโดยทหาร ทั้งๆ ที่พยายามโกหกว่าไม่สนับสนุนรัฐประหาร มีการโกหกอีกว่าเขาเป็นนายกประชาธิปไตย ไม่มีการขึ้นมาโดยทหารหนุนหลัง และเขาตอบไม่ได้ว่าประเทศไทยอยู่ภายใต้อำมาตย์หรือไม่ นี่คือธาตุแท้ของอภิสิทธิ์
อภิสิทธิ์พยายามซื้อเวลาในการเจรจา โดยการปฏิเสธการยุบสภา ข้ออ้างของเขาคือต้องแก้รัฐธรรมนูญก่อน และต้องสร้างความสงบสุขในสังคมก่อนที่จะมีการเลือกตั้งได้ ซึ่งแปลว่ารอไปอีกนาน
ฝ่ายแกนนำเสื้อแดงเสนอว่าการยุบสภาทันที เพื่อให้ประชาชนทั้งปวงมีสิทธิ์กำหนดว่าจะแก้รัฐธรรมนูญอย่างไร และกำหนดว่ารัฐบาลควรใช้นโยบายการปกครองแบบไหน ตามกระบวนการประชาธิปไตย มีน้ำหนักมาก ฝ่ายรัฐบาลมีแต่ข้ออ้างว่าทำไมไม่ควรยุบสภา อภิสิทธิ์บอกว่าต้องไปถามพันธมิตรฯและคนอื่นก่อนที่จะตัดสินอะไร แต่ฝ่ายเสื้อแดงบอกว่าในเมื่อพันธมิตรฯมีพรรคการเมือง ก็ให้ทดสอบในการเลือกตั้งไปเลย ส่วน กอร์ปศักดิ์ สภาวสุ เลขาฯนายกพูดว่าถ้ามีการเลือกตั้ง พรรคที่ได้คะแนนเสียงมากที่สุดไม่ควรมีสิทธิ์แก้รัฐธรรมนูญ ซึ่งแสดงว่ากอร์ปศักดิ์ไม่เคารพประชาชนและประชาธิปไตย นอกจากนี้กอร์ปศักดิ์ยังบิดเบือนประวัติศาสตร์โดยการบอกว่า “ทุกฝ่ายไม่ยอมรับผลการเลือกตั้งในอดีต” จริงๆ แล้วมีแค่ฝ่ายพันธมิตรฯ ทหาร อำมาตย์ และประชาธิปัตย์ที่ไม่ยอมรับผลการเลือกตั้ง
การเรียกร้องให้ยุบสภาเป็นข้อเรียกร้องที่ทุกคนควรจะยอมรับได้ แต่ภายในเสื้อแดงเองเราก็คงเถียงกันต่อว่ามันจะแก้ไขหรือล้มอำนาจอำมาตย์ได้หรือไม่ในระยะยาว ผมเชื่อว่าเราต้องสู้ไปไกลกว่านี้
ไม่ว่าจะมีการยุบสภาหรือไม่ พรรคเพื่อไทยต้องเสนอนโยบายใหม่ๆ ที่สามารถครองใจคนจนได้ ไม่ว่าจะเป็นรัฐสวัสดิการ การขึ้นค่าแรง การช่วยเกษตรกร การสร้างสันติภาพในภาคใต้ฯลฯ ไม่ใช่แค่ย่ำอยู่กับที่และอาศัยบารมีเก่าของทักษิณ ถ้าพรรคเพื่อไทยไม่พร้อมจะทำตรงนี้ คนเสื้อแดงควรพิจารณาสร้างพรรคเสื้อแดงที่ก้าวหน้ากว่าพรรคเพื่อไทยโดยเน้นการปลุกระดมมวลชน การหันหลังให้มวลชนหรือไปแอบทำอะไรใต้ดินไม่ใช่คำตอบด้วย นอกจากนี้เราต้องชนกับลัทธิอำมาตย์อย่างชัดเจน ไม่ใช่ขอให้ประชาชนจงรักภักดีในขณะที่เสื้อแดงส่วนใหญ่เบื่อกับการจงรักภักดี คนอย่างหมอเหวงไม่ควรเสียเวลากับการนำเรื่องประมุขแบบอังกฤษมาพูดในการเจรจา เพื่อพิสูจน์ความจงรักภักดี และแกนนำคนอื่นควรเลิกจุดธูปบนเวทีไหว้เทวดาซึ่งไม่มีจริง
แกนนำ นปช. ตั้งคำถามกับอภิสิทธิ์ว่าเขาจะปกครองประเทศได้ไหมถ้าไม่ยุบสภา? ถ้ามันไม่ยุบ เราชาวเสื้อแดงต้องทำให้รัฐอำมาตย์ปกครองประเทศไม่ได้

สุรชัย ด่านวัฒนานุสรณ์ ถือตัวเองสำคัญกว่าภาระการต่อสู้
คำพูดของสุรชัย ด่านวัฒนานุสรณ์ ใน นสพ. คมชัดลึก (28มีนาคม) ไม่ต่างจากคำพูดของอภิสิทธิ์ในการวิจารณ์แกนนำ นปช. และเป็นคำพูดที่ฝ่ายเสื้อเหลืองนำมาเชิดชูด้วยความดีใจ นี่คือสิ่งที่พิสูจน์ว่าสุรชัยให้ความสำคัญกับข้อขัดแย้งส่วนตัวที่ตนมีกับสามเกลอ แทนที่จะแยกแยะว่าศัตรูหลักคือใครและเสนอก้าวต่อไปอย่างสร้างสรรค์ ชาวเสื้อแดงสายปฏิวัติที่ต้องการล้มระบบอำมาตย์เพื่อได้มาประชาธิปไตยแท้ ควรจะร่วมกันประณามพฤติกรรมของสุรชัย และแยกตัวออกจากคนนี้อย่างชัดเจน