Friday 18 September 2009

เราควรเริ่มสร้างพรรคแดงอย่างไร

เราควรเริ่มสร้างพรรค “แดง” อย่างไร?
ใจ อึ๊งภากรณ์

พรรคแดงต้องสร้างจากพลเมืองรากหญ้า เพื่อให้มีฐานที่มั่นคง เพื่อให้สะท้อนความต้องการแท้ของประชาชน และเพื่อให้สมาชิกพรรคร่วมกันนำ ที่สำคัญเราต้องสามารถ ควบคุมผู้แทนและนักการเมืองของเรา ตรงนี้หลายคนคงเข้าใจดี เพราะคนเสื้อแดงบางส่วนเคยตั้งความหวังและผิดหวังกับคนอย่าง เนวิน ที่ขายตัวเปลี่ยนข้าง หรือทุกวันนี้เราอาจมองว่าแกนนำเสื้อแดงในส่วนที่เป็นนักการเมืองเก่า อาจ “ไปไม่ถึง” “ย่ำอยู่กับที่” โดยที่ไม่มีข้อเสนอใหม่ๆ ตามความต้องการของมวลชน

ถ้าจะสร้างพรรครากหญ้าแบบนี้เราต้องให้ความสำคัญกับ 3 เรื่องคือ
1. รายละเอียด เช่นการรวบรวมรายชื่อและที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ อีเมล์ ของสมาชิกกลุ่มเสื้อแดงที่เราจัดตั้ง เก็บ “ค่าบำรุง” ในระดับพอเหมาะเพื่อให้เราพึ่งตนเองได้ในการทำงาน และที่สำคัญต้องสื่อสารติดต่อกับสมาชิกเป็นประจำเพื่อไม่ทิ้งใคร ในขณะเดียวกันต้องขยายสมาชิก และประสานระหว่างกลุ่มเสื้อแดงในเขตต่างๆ อีกด้วย
2. งานประจำ เราต้องมีกิจกรรมเป็นประจำเพื่อไม่ให้ขาดช่วง แต่ต้องเหมาะสมกับคนที่ต้องไปทำงาน มีครอบครัว หรือเรียนหนังสือด้วย สมาชิกเราไม่ใช่คนที่ทำงานเสื้อแดงเต็มเวลาได้ เขาเป็นพลเมืองธรรมดา วิธีที่ง่ายที่สุดคือการจัดกลุ่มศึกษาทุกอาทิตย์ เพื่อพัฒนาความคิดความเข้าใจ และเพื่อประสานการทำงาน ซึ่งแปลว่าต้องมีจดหมายข่าวออกไปสู่สมาชิกอย่างต่อเนื่อง เพื่อแจ้งข่าวและให้ความรู้
3. การศึกษา เราต้องพัฒนาสมาชิกให้เป็นผู้ที่นำตนเองได้ เป็นผู้นำในชุมชน ที่ทำงาน หรือสถานที่ศึกษาได้ ซึ่งแปลว่าสมาชิกต้องเข้าใจการเมืองไทย การเมืองสากล เศรษฐศาสตร์และประวัติศาสตร์ ตรงนี้มันไม่ได้แปลว่าต้องเป็นศาสตราจารย์กันทุกคนภายในสองสามวัน แต่เราควรมองว่าการศึกษาเป็นเรื่องต่อเนื่องที่ทุกคนมีส่วนร่วมได้ สมาชิกควรอาสาไปศึกษาอะไรสักอย่าง แล้วมาเล่าให้กลุ่มศึกษาฟังเพื่อแลกเปลี่ยนกันไปเรื่อยๆ

ทำไมเราต้องสร้างพรรคแบบนี้? ขอยกตัวอย่าง...
ในช่วงวิกฤตแบบนี้ เราจะเผชิญหน้ากับคำถามรูปธรรมตลอดเวลา เช่น... ถ้ามีการเสนอ “รัฐบาลแห่งชาติ” เราต้องมีจุดยืนอย่างไร? (ในความเห็นส่วนตัวของผม ควรคัดค้านเพราะไม่ต่างจากรัฐบาลบงการโดยทหารที่มีอยู่) หรือ จะมีคำถามว่าควรมีข้อเรียกร้องอะไรบ้าง? ควรเคลื่อนไหวยืดเยื้อหรือสั้นๆ? ถึงจุดไหนเราควรเลิกชุมนุม? ก้าวต่อไปควรเป็นอย่างไร?.... หรือเราควรมีข้อเสนออะไรบ้างเกี่ยวกับวิกฤตเศรษฐกิจ ฯลฯ .... เรื่องแบบนี้เราปล่อยให้แกนนำไม่กี่คนกำหนดทิศทางการต่อสู้ไม่ได้ ถ้าแบบนั้นก็แสดงว่าองค์กรไม่มีประชาธิปไตยภายในและขึ้นอยู่กับความคิดของคนกลุ่มเล็กๆ เราต้องมีส่วนร่วมในการนำ และถ้าจะมีส่วนร่วมเราต้องศึกษาและถกเถียงกันถึงปัญหาเฉพาะหน้าตลอดเวลา บ่อยครั้งในสถานการณ์ที่มีการเปลี่ยนแปลงทางสังคม อย่างที่เราเห็นทุกวันนี้ คนที่เคยก้าวหน้าและสามารถนำ จะกลายเป็นคนที่ประนีประนอมไม่กล้าสู้ (หรือในกรณีคนของภาคประชาชนที่เข้ากับพันธมารฯ –เขาเปลี่ยนไปเป็นคนล้าหลังปฏิกิริยา) และคนที่เคยขาดความมั่นใจในการนำหรือการเสนออะไร เช่นคนเสื้อแดงธรรมดา อาจก้าวออกไปเป็นแกนนำใหม่... ทั้งหมดนี้คือสาเหตุที่เราต้องจัดตั้งและพัฒนาคนของเรา ไม่พึ่งใครคนใดคนหนึ่ง (รวมถึงผมด้วย)

หากความแหลมคมของสถานการณ์มาถึงจุดหนึ่ง จนถึงขนาดที่ ฝ่ายทหาร พรรคประชาธิปัตย์และเส้นใหญ่ ต้องการประนีประนอม ซึ่งทำให้แกนนำเสื้อแดงบางส่วนที่ “ใจไม่ถึง” พะว้าพะวงไม่แน่ใจว่าจะไปอย่างไรดี จนต้องยุติการชุมนุมนั้น... คนเสื้อแดงธรรมดาจะมีส่วนร่วมในการออกแบบมาตรฐานใหม่อย่างไรเพื่อไม่ให้การเมืองไทยว่ายอยู่ในวงจรอุบาทว์แบบเดิม?

อีกตัวอย่างหนึ่งที่แสดงให้เห็นว่าการจัดตั้งเป็นเรื่องสำคัญ คือท่าทีต่อคนที่ถูกรังแกในสังคม พรรคแดงต้องเป็นปากเสียงของคนที่ถูกรังแก แต่น่าเสียดายที่กลุ่มเสื้อแดงบางส่วนที่เชียงใหม่ไปคัดค้านคนรักเพศเดียวกันที่อยากจัดงาน ทุกคนมีสิทธิ์ผิดพลาดได้ แต่เราต้องเปลี่ยนแปลงทัศนะคับแคบที่มาจากพวกอนุรักษ์นิยมเบื้องสูงในสังคม เพื่อปกป้องคนรักเพศเดียวกันหรือผู้ที่ถูกรังแกอื่นๆ เสื้อแดงต้องก้าวหน้าทันสมัยและใจกว้าง เราต้องตรงข้ามกับไดโนเสาร์เสื้อเหลืองที่ชื่นชมจารีตโบราณที่คับแคบ พวกเสื้อเหลืองโจมตี “แถลงการณ์สยามแดง” ที่กล่าวว่า “ตราบใดที่เราหมอบคลานต่ออำนาจเก่าเราจะไม่ยืนขึ้นเป็นมนุษย์” พวกเหลืองอ้างว่าการหมอบคลานคือ “วัฒนธรรมไทย” ซึ่งแปลว่าเขามองว่าคนไทยคือทาส หรือคนไทยไม่ก้าวหน้าไม่เป็นคน เสื้อแดงต้องก้าวหน้า เราไม่ใช่พวกมอบคลานเหมือนสัตว์ เราเป็นมนุษย์เราเป็นพลเมือง และในฐานะที่เป็นมนุษย์เป็นพลเมือง เราต้องมีเกียรติ์พอที่จะเลียวแลเห็นใจและปกป้องพลเมืองอื่นในสังคม เช่นคนรักเพศเดียวกัน ไม่ใช่ไปร่วมกระทืบเขาเหมือนที่ชนชั้นสูงต้องการให้เราทำ

ทุกวันนี้พวกเผด็จการหัวเก่ากำลังขาดความมั่นใจ เขากลัวเพราะประชาชนเสื้อแดงไม่ใช่ลูกน้องใคร นำตนเองได้ และกำลังคิดไปไกล ... กำลังตั้งคำถามกับโครงสร้างเบื้องบนเก่าๆ ของสังคมและอยากได้อะไรที่ใหม่และทันสมัย ฝ่ายเขาเริ่มแสดงท่าทีว่าอาจยอมประนีประนอม ในสถานการณ์แบบนี้เราต้องไม่หยุดสู้ แต่ต้องเดินหน้าเพื่อเอาชนะพวกนั้นอย่างสมบูรณ์

การสร้างพรรคเป็นโครงการต่อเนื่องที่จะใช้เวลา เราต้องเริ่มทำวันนี้ และเราต้องไม่แสวงหาทางลัด เช่นให้ “ผู้ใหญ่” สร้างขึ้นแทนเราด้วยถุงเงินถุงทอง เราต้องสร้างพรรครากหญ้าของประชาชน และหน่ออ่อนของพรรคใหม่นี้คือกลุ่มเสื้อแดงที่ท่านกำลังสร้างอยู่ทุกวันนี้