Friday 18 September 2009

เพื่อประชาธิปไตยแท้

แถลงการณ์แดงสยาม จาก ใจ อึ๊งภากรณ์

ศัตรูของประชาชนมี คุก ศาล ทหาร เขายึดรัฐสภาและรัฐบาลผ่านการก่ออาชญากรรม เราชาวประชาธิปไตยแดงที่หูตาสว่างมีมวลชน แต่ตราบใดที่เรากระจัดกระจายนำตนเองไม่ได้ เราจะอ่อนแอ เมื่อใดที่เราจัดตั้งตนเอง นำตนเอง ในแต่ละท้องที่และรวมตัวกันเป็นพรรคที่เราสามารถร่วมกันนำ 5 นิ้วที่อ่อนแอจะกลายเป็นกำปั้นเหล็กที่ถล่มฝ่ายตรงข้าม

ในขณะที่ผู้นำโลกอย่างประธานาธิบดีโอบามา กำลังเสนอมาตรการเพื่อปกป้องสังคมจากวิกฤตเศรษฐกิจร้ายแรง รัฐบาลไทยปล่อยให้คนงานตกงานเป็นจำนวนมาก และเอาใจใส่แต่ในการ ปิดปากประชาชน ทำลายประชาธิปไตย และสร้างเวปไซท์เรื่องกษัตริย์ที่ส่งเสริมให้ประชาชนเป็นแค่เด็กขี้ฟ้อง

ศัตรูของประชาชนอาจจะมีปืน มีกองกำลัง มีเงิน มีอิทธิพลมืด แต่เขาสามัคคีภายใต้ลัทธิปัญญาอ่อนไร้วิทยาศาสตร์ ที่มุ่งทำให้ประชาชนเป็นทาสเป็นไพร่ ลัทธิกษัตริย์นั่นเอง ลัทธิที่ไร้วิทยาศาสตร์นี้เชิดชูให้คนสามัญที่บังเอิญเกิดในตระกูลหนึ่งถูกมองว่าเป็นเทวดา ทั้งๆที่กษัตริย์มีความสามารถไม่น้อยและไม่มากกว่าประชาชนปกติ ที่เป็นวิศวะกร ศิลปิน เกษตรกร หรือช่างฝีมือ หลายล้านคนทั่วประเทศ

ฝ่ายตรงข้ามอยากให้เราเชื่อว่ากษัตริย์รักและดูแลประชาชน แต่ประชาชนดูแลตนเองได้ และทุกอย่างที่งดงามเกี่ยวกับประเทศเรามาจากมือของประชาชน

กษัตริย์ คนนี้เติบโตมากับเผด็จการโกงกิน สฤษดิ์ ถนอม ประภาษ

กษัตริย์ คนนี้ปล่อยให้คนบริสุทธิ์ถูกประหารชีวิตในข้อหาฆ่ารัชกาลที่ 8

กษัตริย์ คนนี้สนับสนุนเหตุการณ์นองเลือด 6 ตุลา 2519 เพราะมองว่ายุคนั้นไทยมีประชาธิปไตย “มากเกินไป” และเขาเป็นผู้อุปถัมภ์ อันธพาลลูกเสือชาวบ้าน

กษัตริย์ คนนี้ ปล่อยให้ คมช.ทำรัฐประหาร 19 กันยา และปล่อยให้ประชาธิปไตยของเราถูกปล้นไปโดยทหาร พันธมิตรฯ และพรรคประชาธิปัตย์ ในนามของกษัตริย์

ในนโยบายเศรษฐกิจ กษัตริย์คนนี้เคยคัดค้านสวัสดิการสำหรับประชาชนที่มาจากงบประมาณของรัฐ ยิ่งกว่านั้นในฐานะที่เป็นคนรวยที่สุดในโลกคนหนึ่ง ยังบังอาจสั่งสอนคนจนให้ “พอเพียง”

กษัตริย์คนนี้ ยอมให้บริวารรอบข้างตั้งชื่อให้เป็น “พ่อของสังคม” ในขณะที่ลูกชายตนเองไม่เป็นที่เคารพ

พวกอภิสิทธิ์ชนในสังคมที่อ้างความชอบธรรมจากระบบกษัตริย์เป็นเพียงปลิงดูดเลือดประชาชน พวกนี้ไม่ใช่เจ้าของสังคมไทย เขาควรเป็นหนี้บุญคุณประชาชนต่างหาก

สิ่งเหล่านี้ทุกเรื่อง ประชาชนรู้ว่าเป็นความจริงอยู่แล้ว มีสิ่งเดียวเท่านั้นที่กำลังห้ามไม่ให้เรายืนขึ้นพูดความจริงทั้งหมดนี้ ในสังคมเปิด นั่นคือความกลัว

ถ้าเราโดดเดี่ยวเราจะกลัว ถ้าเรามีกลุ่มเราจะกล้า ถึงเวลาแล้วที่เราต้องนำความโกรธ ความกล้า และสติปัญญาที่ประชาชนทุกคนมีอยู่ มาถล่มความกลัว และนำแสงสว่างกลับมาสู่บ้านเมือง เราต้องร่วมกันตั้งคำถามกับระบบเผด็จการปัจจุบัน เพราะเมื่อเราพูดพร้อมๆ กันทั่วประเทศ เขาจะจับคุมเราทั้งหมดไม่ได้

ตราบใดที่เราหมอบคลานต่อลัทธิกษัตริย์ เราทำตัวเป็นแค่สัตว์ เราต้องยืนขึ้นเป็นคน เราต้องเป็นพลเมืองในโลกสมัยใหม่

ธงไตรรงค์สามสี แดง ขาว น้ำเงิน ของฝ่ายเผด็จการ ลอกมาจากธงสามสีของตะวันตก แต่เพื่อส่งเสริม “ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์” ซึ่งเป็นคำขวัญของพันธมาร และทหาร ที่ใช้ในการทำลายประชาธิปไตย

ธงสามสี แดง ขาว น้ำเงิน เคยมีความหมายอื่นในการปฏิวัติฝรั่งเศส นั่นคือ “เสรีภาพ ความเท่าเทียมและความสมานฉันท์” นี่คือคำขวัญที่เราต้องใช้ในการต่อสู้เพื่อปลดแอกสังคมไทย จากยุคมืดแห่งระเบียบใหม่/การเมืองใหม่

เราจะรวมตัวกันอย่างไร?

เลิกหวังได้แล้วว่าอดีตนายกทักษิณจะนำการต่อสู้ในทิศทางที่จำเป็นสำหรับการปลดแอกสังคม อย่าตั้งความหวังกับนักการเมืองพรรคเพื่อไทย เขายังไม่พร้อมที่จะต่อสู้นอกกรอบระบบปัจจุบัน แต่ประชาชนหลายแสนหลายล้านพร้อมจะไปไกล

การต่อสู้นอกกรอบ ไม่ใช่การจับอาวุธสู้ แต่เป็นการติดอาวุธทางปัญญากับมวลชน เราต้องมีกลุ่มศึกษาการเมืองของเราเอง เราต้องรวมตัวกันเป็นพรรค และพรรคนี้ต้องนำตนเองในทุกท้องที่ ทุกชุมชน ทุกโรงงาน ทุกสถานที่การศึกษา ในรูปแบบที่คนเสื้อแดงเริ่มทำอยู่ แต่เราต้องประสานงานกัน

เราต้องมั่นใจว่าคนที่จะนำพรรคคือ เรา พลังของพรรคคือ เรา และทุกคนต้องมีส่วนร่วมในการสร้างนโยบายและจุดยืน

อาวุธของเราคือการชุมนุม การนัดหยุดงาน และการขยายความคิดสู่คนอื่นในทุกภาคส่วน แม้แต่ในระดับล่างของกองทัพ

พรรคเรา ต้องมีกิจกรรมเปิดบ้าง แต่เนื่องจากกฎหมายหมิ่นและความก้าวร้าวของทหาร บางส่วนจะต้องปิดลับตามความเหมาะสม นี่คืออีกเหตุผลที่เราต้องนำตนเอง

จุดร่วมของเราควรจะมีหน้าตาเป็นอย่างไร?

มันไม่ใช่สิ่งที่คนๆเดียวเสนอได้ ต้องร่วมกันเสนอ แต่นี่คือข้อเสนอของผมในฐานะพลเมืองแดงรักประชาธิปไตยคนหนึ่ง

1. เราต้องมีเสรีภาพในการแสดงออก เสรีภาพทีจะเลือกรัฐบาลทีคนส่วนใหญ่ต้องการ โดยไม่มีการปราบปรามข่มขู่ และไม่มีความกลัว
2. เราต้องมีความเท่าเทียมเสมอภาค ต้องยกเลิกระบบผู้ใหญ่ผู้น้อย ยกเลิกการหมอบคลาน นักการเมืองต้องปฏิญาณตนว่าจะเคารพนายที่แท้จริงของตนเองคือประชาชน ซึ่งเป็นเจ้าของประเทศไม่ใช่อำนาจนอกระบบ เราต้องสร้างวัฒนธรรมพลเมืองที่เคารพซึ่งกันและกัน เราต้องมีเสรีภาพและความเท่าเทียมทางเพศและเชื้อชาติ ต้องเคารพผู้หญิง เคารพคนรักเพศเดียวกัน เคารพคนพม่า ลาว เขมร และคนมุสลิมในสามจังหวัดภาคใต้ ผู้หญิงต้องมีสิทธิทำแท้งอย่างปลอดภัย ผู้ลี้ภัยจากต่างประเทศควรจะได้รับการดูแลอย่างอบอุ่น สมกับที่ประเทศเราเป็นประเทศอารยะ
3. ประเทศเราต้องเป็นรัฐสวัสดิการ ถ้วนหน้า ครบวงจร และผ่านการเก็บภาษีก้าวหน้าจากคนรวย คนจนไม่ใช่ภาระ แต่เป็นคนร่วมพัฒนาชาติ ที่ต้องมีศักดิศรี สังคมล้าหลังปัจจุบันกดทับประชาชาชนจำนวนมากไม่ให้เขาเป็นผู้สร้างสรรค์ และนำสังคมไปสู่ความก้าวหน้า
4. ในประเทศเรากษัตริย์ไม่ควรยุ่งในเรื่องการเมือง และลักษณะส่วนตัวของกษัตริย์ไม่ควรจะมีความสำคัญ กษัตริย์ต้องไม่แสดงจุดยืนของตัวเองในเวทีสาธารณะ แต่ในสังคมไทยปัจจุบันชนชั้นปกครองร่วมรับผลประโยชน์จากการใช้กษัตริย์เป็นเครื่องมือ และดูเหมือนว่าจะไม่ยอมยกเลิกพฤติกรรมแบบนี้ ดังนั้นวิธีแก้ไขปัญหานี้ที่ดีที่สุด จึงเป็นเรื่องของการ สร้างระบบสาธารณะรัฐในประเทศไทย เพื่อให้ทุกตำแหน่งมาจากการเลือกตั้งโดยประชาชน
5. ประเทศเราอยู่ภายใต้รองเท้าบูทของนายพลมานานเกินไป เราตั้งตัดงบประมาณของทหารและอำนาจในสังคมเพื่อไม่ให้เป็นอุปสรรคต่อประชาธิปไตยอีกต่อไป
6. ประเทศเราต้องมีความยุติธรรม ศาลไม่ควรอ้างกษัตริย์ในการขัดขวางการถูกตรวจสอบ ไม่ควรใช้กฎหมายหมิ่นศาลเพื่อปกป้องระบบอยุติธรรม เราต้องปฏิรูประบบยุติธรรมอย่างถอนรากถอนโคน ต้องมีระบบลูกขุนที่มาจากประชาชน ตำรวจต้องบริการประชาชนแทนที่จะรีดไถคนจน
7. ประชาชนในเมือง ในชุมชน ในท้องถิ่นต่างๆ ต้องเข้ามาบริหารสาธารณะในทุกระดับ เช่น รัฐวิสาหกิจ สื่อ โรงเรียนและโรงพยาบาล
8. ประเทศเราต้องทันสมัย เราต้องปรับปรุงระบบการศึกษา การคมนาคม และที่อยู่อาศัย และหันมาผลิตพลังงานจากลมและแสงแดดเพื่อปกป้องสิ่งแวดล้อม
9. ประเทศเราต้องรักสงบ ไม่ขัดแย้งสร้างเรื่องกับประเทศเพื่อนบ้าน หรือ สนับสนุนการก่อสงคราม

พวกใดโนเสาร์ล้าหลัง พวกเสื้อเหลือง จะบ้าคลั่ง น้ำลายฟูมปากเมื่ออ่านแถลงการณ์อันนี้ แต่มันเป็นเพียงอาการของพวกตกยุค หลุดโลก งมงาย ที่ควรจะลงถังขยะแห่งประวัติศาสตร์ เราชาวประชาธิปไตยแดง จะเดินหน้า สร้างสังคมอารยะ สังคมใหม่

พวกอภิสิทธิ์ชน ไม่มีสิทธิ์ปล้นชีวิต ศักดิ์ศรี ความเป็นคนของประชาชน ไปเพื่อหวังเพิ่มความเป็นคนของเขาเอง หยุดเอาคนจนมาบูชายันต์ได้แล้ว

พวกที่อ้างว่า “ไทยมีลักษณะพิเศษในการมีกษัตริย์” เพียงแต่ยืนยันว่าความพิเศษของสังคมไทยที่เขาต้องการปกป้องคือความป่าเถื่อนและเผด็จการ การอ้างเรื่อง “ความมั่นคง” เป็นเพียงการพยายามสร้างความมั่นคงให้กับผู้ที่กดขี่ขูดรีดประชาชน ไม่ใช่การสร้างความมั่นคงและดีงามกับพลเมืองทั่วไปแต่อย่างใด

แถลงการณ์นี้เป็นเพียงข้อเสนอที่เราอาจนำมาเป็นจุดร่วมได้ในหมู่คนเสื้อแดงที่รักประชาธิปไตย ส่วนตัวแล้ว ในฐานะนักสังคมนิยม ผมอยากเห็นประเทศเราเดินหน้าต่อไปจากนั้น เพื่อสร้างสังคมที่มีประชาธิปไตยเต็มใบและไม่มีชนชั้น ปราศจากการกดขี่ขูดรีด... ระบบสังคมนิยมนั้นเอง แต่นั้นเป็นเป้าหมายระยะยาว

ชนชั้นปกครองดูใหญ่โต เข้มแข็ง เมือเรายังคลานอยู่กับพื้น แต่พอเรายืนขึ้นหูตาสว่าง เดินหน้าร่วมกับคนอื่น เราจะเห็นว่าพวกนี้อ่อนแอและน่าสมเพชแค่ไหน

ในอดีต ไม่ว่าจะช่วง ๒๔๗๕ หรือ๑๔ ตุลา เคยมีความฝันในหมู่ประชาชน ว่าเราจะสร้างสังคมประชาธิปไตยที่มีความเท่าเทียม เราจะต้องสร้างความฝันนี้ให้เป็นจริงสักที
ใจ อึ๊งภากรณ์ 9 กุมภาพันธ์ 2009